โคมไฟแชนเดอเรีย (Chandelier) จัดเป็นโคมไฟระย้าประเภทหนึ่ง ที่มีไว้เพื่อประดับตกแต่งเพดาน โถงทางเดิน โซนบันได ห้องรับแขก เป็นต้น และมีประวัติความเป็นมาจากเชิงเทียนที่แขวนลงมาจากเพดาน นิยมประดับไว้ในโบสถ์ หรือ คฤหาสน์เศรษฐี ในสมัยก่อน ก่อนที่จะถูกพัฒนามาใช้โลหะและวัสดุอื่นๆ ทำเป็นลวดลายสวยงาม พร้อมประดับคริสตัลแก้ว เพิ่มความระยิบระยับแวววาว แสดงถึงความหรูหราเช่นในปัจจุบัน
1. Maria Theresa Crystal Chandeliers
โคมไฟหรูหราแห่งราชสำนักออสเตรีย ที่ส่องประกายสว่างไสว สวย สง่า เลอค่า อย่างมิเคยเสื่อมคลาย เคียงคู่งานเต้นรำในรั้ววัง หรือใช้ประดับประดาในทุกห้องทรง จนได้รับการขนานนามแชนเดอเลียร์สไตล์สุดหรูดั่งพระนามของพระองค์
2. Traditional Modern Chandelier
โคมไฟแชนเดอเรียในยุคเก่าที่นำเอาดีไซน์เก่ามาตีความลดทอนให้ได้รูปฟอร์มของความทันสมัยมากขึ้น
3. Art Deco Chandeliers
หวนกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งโดยยังชูเสน่ห์ ของลายเส้น ZIG-ZAG หรือ ความสวยงามของ รูปทรงเราขาคณิต เป็นหลัก
4. Murano Glass Chandeliers
ชูจุดขายด้วยงานฝีมือแก้วเป่าในหลากหลายเทคนิค หลากสีสัน และรูปทรง และใช้โครงสร้างแบบเบาบางเพื่อเสริมความเด่นของเนื้อแก้วชั้นดีที่ถูกเป่าขึ้นรูปยามต้องแสงไฟ
5. Roman Bath Chandeliers
ส่วนใหญ่จะใช้ในฟังก์ชัน กึ่งภายในและภายนอก เด่นด้วยวัสดุทองเหลือง เน้นสีทองเงาหรือด้าน ขับวัสดุร่วมที่ธรรมดาสามัญให้ดูมีมนต์ขลัง
6. Organic Form Chandeliers
ใช้ความลื่นไหล โค้งมน แห่งธรรมชาติเป็นตัวหลัก ในการถ่ายทอดชิ้นงานโครงสร้างและฟอร์มสิ่งประดับ หรือแม้กระทั่งวัสดุธรรมชาติจริง เช่นก้อนหิน เปลือกหอย ขนนก ปะการัง มาตกแต่งเลียนธรรมชาตินิยม ให้อารมณ์ ผ่อนคลายใกล้ชิดธรรมชาติ เหมาะสำหรับการตกแต่ง Resort & Spa
7. Modern Industrial Chandeliers
ก็เป็นอีกหนึ่งสไตล์ที่มีความเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและเห็นได้ชัดอย่างมากทั้งรูปแบบการตกแต่ง วัสดุที่ใช้ในการตกแต่ง โทนสีที่เป็นหลักคือสีดำ เท่า น้ำตาล หนังต่างๆ โคมไฟให้กลิ่นไอความดิบ เป็นไอเดียสุดสร้างสรรค์แห่งการมิกซ์แอนด์แมทช์