แม้ว่าการเลือกกระจกตกแต่งผนังจะเป็นทางเลือกที่ช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับแต่ละห้องได้ดี แต่ว่าในทุกห้องนั้นต้องการความแตกต่างกันในเรื่องของการเลือกใช้กระจก ทั้งดีไซน์ ประเภท ความหนา และขนาด ดังนั้นคุณจะสามารถเลือกกระจกให้เหมาะกับห้องได้อย่างไรดี เรามาเก็บไอเดียแล้วไปเริ่มแต่งห้อง พร้อมกับบริษัทกระจกที่เชี่ยวชาญเรื่องนี้ดีที่สุดกันดีกว่า
กระจก ติด ผนัง สวย ๆ แต่ละส่วนควรหนาเท่าไรมาดูกัน
ถึงเวลามาดูความหนาของกระจกตกแต่งผนัง ในแต่ละส่วนกันแล้วว่าควรเลือกความหนาแบบไหน เพื่อให้ตอบโจทย์กับการใช้งาน และเพื่อให้คุณได้เจอกับผนังกระจกตกแต่งที่ทั้งสวย และคุ้มราคามากที่สุด
ส่วนประตูและหน้าต่างภายใน
ไม่ว่าจะเป็นห้องไหน แต่ถ้าคุณเลือกที่จะทำประตูและหน้าต่างจากกระจกนั้นก็มีความหนาที่แนะนำในสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน โดยถ้าเป็นกระจกแบบบานเปลือย หน้าบานตู้ แนะนำว่าความหนาประมาณ 10 มิลลิเมตร จะมาพร้อมการใช้งานที่ปลอดภัย และเหมาะสมกับการหยิบจับบ่อย ๆ แต่ถ้าเป็นกระจกที่มาพร้อมกรอบต่าง ๆ ทั้งหน้าบาน อะลูมิเนียม ความหนาประมาณ 6 มิลลิเมตร ถือว่าเพียงพอ และเป็นที่นิยม ซึ่งคุณต้องไม่พลาดที่จะเลือกใช้กระจกที่เป็นกระจกนิรภัยอย่าง เทมเปอร์ ลามิเนต หรือใช้เป็นกระจกตัดแสงเพื่อช่วยลดความร้อน และรังสียูวีที่จะเข้ามาทำร้ายคุณ
กระจกผนัง
ถ้าเลือกมาติดผนังไม่ว่าจะเป็นกระจกใสหรือเงา แนะนำว่าขนาดความหนาประมาณ 5-8 มิลลิเมตร เหมาะและกำลังทั้งสวยงาม ไปคู่กับความปลอดภัย ซึ่งถ้าคุณเลือกใช้เป็นกระจกนิรภัยด้วยแล้วสามารถมั่นใจในเรื่องความแข็งแรง ทนทานได้เลย โดยแนะนำเพิ่มเติมว่าเมื่อคุณเลือกกระจกมาติดบริเวณผนังนั้นการเลือกแบบเคลือบสีจะเพิ่มความหนาขึ้น และยังลดแสงสะท้อนที่จะเข้ามา ลดได้ทั้งความร้อน และไม่ทำให้คุณแสบตาเวลาอยู่ภายในพื้นที่อีกด้วย
กระจกติดผนังแบบเจียรปลี
สำหรับกระจกประเภทนี้พัฒนาออกมาเพื่อการตกแต่งอย่างแท้จริง เพราะขอบของกระจกนั้นจะได้รับการปาดให้มีลูกเล่น มีทั้งแบบเจียร 1 ด้าน และ 2 ด้านให้คุณได้เลือก แต่ไม่แนะนำให้ทำกับพื้นที่ใหญ่ ๆ เพราะมองแล้วอาจเกิดความลายตาขึ้นได้ รวมทั้งประเภทของกระจกตกแต่งผนัง ราคายังสูงอีกด้วย ซึ่งความหนาที่แนะนำอยู่ที่ 5-8 มิลลิเมตร
กระจกสำหรับวางของ
คุณสามารถปรับใช้กระจกให้กลายเป็นชั้นวางของได้ แถมยังถือว่าเป็นวัสดุที่ทำความสะอาดง่าย รวมทั้งดูไม่เก่าง่าย ๆ อีกด้วย ยิ่งโดยเฉพาะในห้องน้ำ และห้องครัว คุณไม่ควรพลาดที่จะเลือกชั้นวางและกระจกผนังครัวมาใช้ เพราะทำความสะอาดง่าย เหมาะกับห้องที่ต้องเจอคราบอยู่เสมอ โดยความหนาที่แนะนำสำหรับการทำชั้นวางคือ 10 มิลลิเมตร และควรใช้เป็นกระจกนิรภัย เพราะถือว่าเป็นส่วนที่ได้รับการกระแทกเยอะ อาจเกิดการแตกหักได้ง่าย
กระจกสำหรับบันได
ถือว่าเป็นพื้นที่โล่งโปร่ง แต่ยังต้องการความปลอดภัยเมื่อเดินขึ้นลง ดังนั้นกระจกจึงเข้ามาเป็นตัวเลือกที่ดีในการทำราวบันได หรือที่กั้นบันได โดยแนะนำว่าควรมาพร้อมความหนา 8-10 มิลลิเมตร และเป็นกระจกนิรภัย เพราะถือว่าอยู่ในจุดเสี่ยงกับการโดนกระแทก
กระจกหลังคา
เชื่อว่าบางคนชื่นชอบความโล่งโปร่ง และต้องการทำให้บ้านมีหลังคาใส รับแสง เพิ่มวิตามินดีให้ร่างกายยามเช้าแบบง่าย ๆ ดังนั้นการเลือกติดกระจกเป็นส่วนหลังคานั้นควรมาพร้อมความหนาประมาณ 10-20 มิลลิเมตร เพราะเป็นกระจกภายนอก ที่เสี่ยงกับการโดนกระแทก และของตกหล่นใส่อย่างไม่คาดคิด และที่สำคัญต้องใช้เป็นกระจกนิรภัย เพื่อป้องกันอุบัติเหตุเบื้องต้น
การเลือกกระจกติดผนัง
เมื่อเจอกับความหนาของกระจกตกแต่งผนังที่เหมาะสมกับแต่ละห้อง แต่ละที่กันไปแล้ว เรามาดูวิธีเลือกองค์ประกอบอื่น ๆ ของการติดกระจกกันดีกว่าว่าควรเลือกอย่างไรบ้าง เพื่อให้เจอกับความสวยงาม ที่มาพร้อมกับความคุ้มค่ามากที่สุด
เลือกจากรูปแบบการต่อกระจก
ในส่วนนี้สามารถปรึกษากับทางบริษัทกระจกได้เลยว่าพื้นที่ของคุณเหมาะกับการติดกระจกแบบไหนบ้าง ซึ่งในตอนนี้ที่นิยมกันเป็นอย่างมากก็จะมี แบบเรียบง่ายที่เรียงต่อกันอย่างเป็นระเบียบ แบบมีลูกเล่นที่ติดขึ้นลงสลับกันไปมา หรือแบบหรูหราที่ก่อนติดต้องเจียรปลีกระจกก่อน เป็นต้น
เลือกสีของกระจก
ในตอนนี้ไม่ได้มีแค่กระจกใส กับกระจกเงาให้เราเลือกกันแค่สองตัวเลือกอีกแล้ว ไม่ว่าคุณจะต้องการสีสันแบบไหน ตัดแสงหรือไม่ รวมทั้งถ้าอยากได้แบบย้อมสีให้ดูวินเทจก็ยังสามารถเลือกได้ เพื่อออกแบบให้เข้ากับพื้นที่ของคุณมากที่สุด
การดีไซน์ร่วมกัน
ในส่วนนี้คุณสามารถเลือกกระจกหลายแบบ หลายสีมารวมกันได้ แต่ควรวางแผนให้ดีก่อน เพราะถ้ามากสีจนเกินไปอาจทำให้ลายตา ส่งผลถึงความอึดอัดเมื่อต้องทำสิ่งต่าง ๆ อยู่ภายในพื้นที่เหล่านั้น แต่ถ้าคุณมิกซ์สีและรูปแบบได้ลงตัว บอกเลยว่าคุณจะได้ความเป็นเอกลักษณ์ที่น่าจดจำกลับมาครองอย่างแน่นอน
วิธีดูแลผนังกระจก
สำหรับกระจกตกแต่งผนังนั้นถือว่าเป็นหนึ่งในวัสดุแต่งบ้านที่สามารถทำความสะอาดได้ง่ายที่สุด แต่ต้องอาศัยความใส่ใจ และเน้นการดูแลที่ต่อเนื่อง เพื่อให้ดูสวยงามเหมือนใหม่ และเงาใสอยู่เสมอ วิธีการดูแลกระจกติดผนังที่คุณไม่ควรพลาดมีอะไรบ้างมาดูกันเลย
ไม่ควรทำให้ทึบเกินไป
กระจกนั้นยังมีการระบายความร้อนอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นคุณจึงไม่ควรที่จะทาสีทึบ ปิดแผ่นกระดาษ ติดม่านหรือมู่ลี่ที่หนาจนเกินไป เพราะจะทำให้การระบายอากาศไม่สะดวก ส่งผลให้เกิดเป็นการแตกร้าวขึ้นได้
เลี่ยงความร้อนสูง
แม้ว่ากระจกจะมาพร้อมความสามารถในการทนความร้อนได้ดี แต่การนำไปไว้ใกล้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ส่งความร้อนมาก ๆ อย่างเช่น หม้อต้มน้ำ เตาแก๊ส หม้อหุงข้าว ในกระจกบางประเภทอาจเกิดการแตกร้าวขึ้นได้
อย่าติดของเหนียว
ไม่ว่าจะเป็นสติกเกอร์ กาว การติดลงไปที่กระจกอาจทำให้ติดแน่น ทิ้งคราบ ทำความสะอาดยาก และอาจเกิดเป็นรอยขีดข่วนขึ้นมาได้
เกิดรอยร้าวต้องรีบแก้
เมื่อเริ่มมีรอยร้าวนั่นหมายความว่าความแข็งแรงของกระจกนั้นลดลง และถ้าไม่รีบแก้ไขในครั้งต่อไปหากมีของไปกระทบเพียงเล็กน้อย ก็สามารถทำให้กระจกแตกกันได้เลยทีเดียว
ใช้วัสดุที่ไม่ขีดข่วนทำความสะอาด
แนะนำว่าการเลือกใช้ผ้านุ่ม หรือแบบไมโครไฟเบอร์มาเช็ดกระจกนอกจากจะช่วยดึงฝุ่นออกไปได้ดีแล้ว ยังไม่ทำร้ายผิวกระจกให้ต้องมีรอยขีดข่วนอีกด้วย
Renn Glass พร้อมให้คำปรึกษา รับออกแบบ และติดตั้งกระจกตกแต่งผนังให้คุณได้ตามที่ต้องการ
ถ้าตอนนี้คุณกำลังต้องการหาที่ปรึกษาในเรื่องของการติดกระจก ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน ภายนอก ภายใน หรือแม้แต่ส่วนโครงสร้าง สามารถสอบถามเข้าที่ Renn Glass กันได้เลย เพราะที่นี่มีผู้เชี่ยวชาญในเรื่องของกระจกคอยให้บริการคุณอย่างครบทุกมิติ และยังมีกระจกหลากหลายประเภท ราคามาตรฐาน พร้อมบริการติดตั้งให้กับคุณอย่างมืออาชีพ
คุณสามารถติดต่อเข้ามาได้ที่ 087-414-2256 หรือติดต่อผ่านทาง LINE เพื่อสอบถามข้อมูลสินค้าและบริการ นอกจากนี้ที่หน้าเว็บไซต์ และที่ Page Facebook ของเรายังมีการอัปเดตข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับกระจก พร้อมทั้งการติดตั้งรูปแบบใหม่ ๆ ให้คุณได้เก็บไปเป็นไอเดียกันอีกด้วย
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
กระจกติดผนังไม่ต้องเจาะทำอย่างไร
คุณสามารถใช้เป็นกาวติดกระจกติดกับผนังได้เลย แต่ต้องเตรียมผนัง และติดอย่างแม่นยำ เพราะเมื่อติดไปแล้วจะถอดออกค่อนข้างยาก
วอลล์เปเปอร์ติดกระจกได้ไหม
ไม่ได้ เพราะเสียงกับการหลุดลอก นอกจากจะติดแบบเจาะผนัง